ความหมายของ E-Learning

พ.ต.ท. หญิง ดร. ศิริวรรณ  อนันต์โท


 

ความหมายของ E-Learning  ได้ถูกอธิบายไว้อย่างหลากหลาย  ดังต่อไปนี้

โครงการการเรียนรู้แบบออนไลน์แห่ง สวทช. ได้ให้คำนิยามไว้ว่า E-Learning  หมายถึงการศึกษาเรียนรู้ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์อินเทอร์เน็ต  หรืออินทราเน็ต  เป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเอง   ผู้เรียนจะได้เรียนตามความสามารถและความสนใจของตน โดยเนื้อหาของบทเรียนซึ่งประกอบด้วย ข้อความ รูปภาพ เสียง วิดีโอและมัลติมีเดียอื่นๆ จะถูกส่งไปยังผู้เรียนผ่าน Web Browser โดยผู้เรียน ผู้สอน และเพื่อนร่วมชั้นเรียนทุกคน สามารถติดต่อ ปรึกษา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้เช่นเดียวกับการเรียนในชั้นเรียนปกติ โดยอาศัยเครื่องมือการติดต่อสื่อสารที่ทันสมัย (e-mail, web-board, chat) จึงเป็นการเรียนสำหรับทุกคน เรียนได้ทุกเวลา และทุกสถานที่ (Learning for all : anyone, anywhere and anytime) [1]

ผศ. ดร. ถนอมพร เลาหจรัสแสง  ได้ให้ความหมายของ E-Learning ไว้ในหนังสือ Designing E-leaning : หลักการออกแบบและการสร้างเว็บเพื่อการเรียนการสอน  ว่าความหมายของ E-Learning สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะด้วยกัน ได้แก่ ความหมายโดยทั่วไปและความหมายเฉพาะเจาะจง

  • ความหมายโดยทั่วไปจะครอบคลุมความหมายที่กว้าง  กล่าวคือ จะหมายถึง  การเรียนในลักษณะใดก็ได้  ซึ่งใช้การถ่ายทอดเนื้อหาผ่านทางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์  ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์  เครือข่ายอินเทอร์เน็ต  อินทราเน็ต  เอ็กซ์ทราเน็ต  หรือ  ทางสัญญาณโทรทัศน์  หรือสัญญาณดาวเทียม (satellite) ก็ได้ ซึ่งเนื้อหาสารสนเทศอาจอยู่ในรูปแบบการเรียนที่เราคุ้นเคยกันมาพอสมควร เช่น คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer-Assisted Instruction) การสอนบนเว็บ (Web-Based Instruction) การเรียนออนไลน์ (On-line Learning) การเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม หรืออาจอยู่ในลักษณะที่ยังไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก  เช่น การเรียนจากวีดิทัศน์ตามอัธยาศัย (Video On Demand) เป็นต้น

  • ความหมายเฉพาะเจาะจง ของ E-Learning หมายถึง  การเรียนเนื้อหาหรือสารสนเทศสำหรับการสอนหรือการอบรม  ซึ่งใช้การนำเสนอด้วยตัวอักษรภาพนิ่ง  ผสมผสานกับการใช้ภาพเคลื่อนไหว  วิดีทัศน์และเสียง โดยอาศัยเทคโนโลยีของเว็บ (web technology)  ในการถ่ายทอดเนื้อหา  รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีระบบการจัดการคอร์ส (Course Management System) ในการบริหารจัดการงานสอนด้านต่าง ๆ เช่น การจัดให้มีเครื่องมือการสื่อสารต่าง ๆ เช่น E-mail, web board สำหรับตั้งคำถาม หรือแลกเปลี่ยนแนวคิดระหว่างผู้เรียนด้วยกัน หรือวิทยากร การจัดให้มีแบบทดสอบหลังจากเรียนจบเพื่อวัดผลการเรียน   รวมทั้งการจัดให้มีระบบบันทึกติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการเรียน โดยผู้เรียนที่เรียนจาก E-Learning นี้ ส่วนใหญ่แล้วจะศึกษาเนื้อหาในลักษณะออนไลน์ ซึ่งหมายถึงจากเครื่องมือที่มีการเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์[2]

. ดร. เกรียงศักดิ์  เจริญวงศักดิ์  ได้ให้ความหมายของการเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Learning ว่า  หมายถึงการเรียนรู้บนฐานเทคโนโลยี  ซึ่งครอบคลุมวิธีการเรียนรู้จากหลายรูปแบบ  อาทิ  การเรียนรู้บนคอมพิวเตอร์ (Computer-Based Learning)  การเรียนรู้บนเว็บ (Web-Based Learning) ห้องเรียนเสมือนจริง (Virtual Classrooms) และความร่วมมือกันผ่านระบบดิจิตัล (Digital Collaboration) เป็นต้น  ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท  อาทิ อินเทอร์เน็ต (Internet)  อินทราเน็ต (Intranet)  เอ็กซ์ทราเน็ต (Extranet)  การถ่ายทอดผ่านดาวเทียม (satellite boardcast) ผ่านแถบบันทึกเสียงและวิดีทัศน์ (audio / video tape) โทรทัศน์ที่สามารถโต้ตอบกันได้ (Interactive TV) และซีดีรอม (CD-ROM) [3]

เกียรติศักดิ์ อนุธรรม  ได้ให้ความหมายของ E-Learning ว่าแตกต่างกันออกไปตามประสบการณ์ของแต่ละบุคคล  แต่ก็ยังมีส่วนที่เหมือนกันอยู่คือ การใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการสื่อสารเป็นเครื่องมือสำคัญของการเรียนรู้ในการศึกษา  โดยมีพัฒนาการไปตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีอยู่ในอินเทอร์เน็ต  ครอบคลุมการเรียนในหลายรูปแบบทั้งการเรียนทางไกลและการเรียนผ่านเครือข่าย[4]

สยาม ลิขิตเลิศ  ได้ให้ความหมายของการเรียนรูปแบบออนไลน์ หรือ E-Learning ว่าเป็นการศึกษาและเรียนรู้ผ่านระบบเครื่องมือที่เป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์  ไม่ว่าจะเป็นซีดีรอม  เว็บ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต  หรือ  อินทราเน็ต   เป็นการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตัวเอง  ผู้เรียนจะได้เรียนตามความสามารถและความสนใจของตน  โดยเนื้อหาบทเรียนซึ่งประกอบด้วยข้อความ  รูปภาพ  เสียง  วีดิทัศน์  และมัลติมีเดียอื่น ๆ จะถูกส่งไปยังผู้เรียนผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์  โดยที่ผู้เรียน  ผู้สอน  และเพื่อนร่วมชั้นเรียนทุกคนสามารถติดต่อ  ปรึกษา  แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้เช่นเดียวกับการเรียนในชั้นเรียนปกติ  โดยอาศัยเครื่องมือการติดต่อสื่อสารที่ทันสมัย  เช่น (chat, e-mail, web board) จึงเป็นการเรียนสำหรับทุกคนเรียนได้ทุกเวลา  และทุกสถานที่[5]

รศ. ยืน  ภู่วรวรรณ  ได้ให้คำนิยามสั้น ๆ ว่า E-Learning  คือการเรียนผ่านเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ที่ให้ต้นทุนถูก  เรียนรู้ได้เร็วได้มาก  สามารถกระจายได้อย่างทั่วถึง  และที่สำคัญคือ ทำให้มีการพัฒนารูปแบบของการศึกษา  การเรียนการสอนในรูปแบบใหม่ ๆ ออกมามากมาย[6]

รศ. ดร. สฤษดิ์พงษ์  ลิมปิษเฐียร ได้ให้ความหมายของคำว่า E-Learning ว่า  E ย่อมาจาก electronic ส่วน L ย่อมาจาก learning ก็คือการเรียนรู้   ดังนั้น E-Learning จึงเป็นระบบการเรียนรู้หรือระบบการเรียนการสอนที่อาศัยสื่อ electronic เข้ามาช่วยเพื่อที่จะให้เกิดการเรียนรู้  ปัจจุบันเราต้องการที่จะให้มีการเรียนรู้เกิดขึ้นกว้างขวาง รวดเร็ว ประหยัด ซึ่งตรงนี้สื่อ electronic หรือปัจจุบันเรียกว่า ICT (Information and Communication Technology) จะสามารถให้การจัดการเรียนการสอนมีต้นทุนต่ำลง ทำได้กว้างขวางขึ้น  ICT เป็นเทคโนโลยีที่สามารถที่จะบูรณาการสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่เราเคยใช้เข้ามาสู่ระบบเพียงระบบเดียว ด้วยความสามารถของ ICT รวมทุกสิ่งทุกอย่างมาไว้ในคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว  โดยอาศัยสื่ออินเทอร์เน็ต  ดังนั้น จึงต้องการเน้นไปที่การบูรณาการมากกว่าคือ ระบบการเรียนการสอนที่อาศัยสื่ออิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วยเข้าสู่ระบบเพียงระบบเดียว[7]

ผศ. ดร. ปัทมาพร เย็นบำรุง  ให้ความหมายของ E-Learning ว่าหมายถึง ระบบการเรียนการสอนแบบใหม่ ที่เราได้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและระบบโทรคมนาคม คือ ICT มาช่วยในการบูรณาการเนื้อหาความรู้ซึ่งอยู่ในสื่ออื่น ๆ ที่เป็น electronic หรือในรูปของหนังสือ ทั้งหมดนี้นำมาอยู่ในรูปเดียวกัน ให้สอนผ่านคอมพิวเตอร์ โดยที่ให้การเรียนรู้นี้ใช้ต้นทุนที่ต่ำ ไปได้อย่างรวดเร็วทั่วถึงให้ได้ผลดีมีประสิทธิภาพ[8]

มนต์ชัย สันติเวส  ได้ให้ความหมายของ E-Learning  ว่าเป็นการเรียนการสอนคล้ายรูปแบบเดิม ๆ เพียงแต่นำคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้ระบบเครือข่ายทั้งหลาย รวมไปถึงอุปกรณ์เทคโนโลยีทั้งหลายมาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเรียน การวัดผล และการจัดการกับการศึกษาทั้งหมดที่ไม่ใช้วิธีแบบเดิมอีกต่อไป คำว่า E-Learning ย่อมาจากคำว่า electronics(s) learning คือ การเรียนรู้ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือหมายถึง computer learning คือ การเรียนรู้ทางคอมพิวเตอร์หรือจะเรียกว่าเป็นการเรียนรู้แบบใหม่โดยใช้คอมพิวเตอร์ก็ว่าได้

ลักษณะของ E-Learning เป็นการเรียนบนระบบออนไลน์ คือ ข้อมูลทางคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมที่จะใช้งานอยู่ตลอดเวลา ทำให้การเรียนการสอนแบบ E-Learning เป็นการเรียนที่สามารถโต้ตอบกันได้เหมือนการเรียนแบบเดิม ๆ แต่ยังสามารถใช้เทคโนโลยีที่เป็นลักษณะมัลติมีเดียซึ่งได้แก่ รูปภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหวมาใช้นำเสนอทำให้การเรียนการสอนมีความน่าสนใจกว่าตัวหนังสือล้วน ๆ บนกระดาษ

คุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งของการเรียนแบบ E-Learning คือ ผู้เรียนและผู้สอนไม่ต้องมาพบกัน  และไม่ต้องเดินทางให้เสียเวลา  เพียงแต่ครูและนักเรียนมีเครื่องคอมพิวเตอร์ก็สามารถเชื่อมต่อเข้าไปในโลกของอินเทอร์เน็ต  และทำการเรียนการสอนกันได้  ดังนั้น การเรียนแบบ E-Learning ก็จะเป็นการศึกษาแบบไร้ขอบเขต  สามารถที่จะทำกิจกรรมบนห้องเรียนแบบออนไลน์ได้ และจะเป็นที่นิยมเพราะว่าไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา ระยะทาง สถานที่ นอกจากนั้นยังสามารถตอบสนองต่อศักยภาพและความสามารถของผู้เรียนได้ดีอีกด้วย[9]

 ดร. ชุณหพงศ์  ไทยอุปถัมภ์   ได้ให้ความหมายของคำว่า E-Learning หรือ Electronic Learning ในปัจจุบันค่อนข้างแตกต่างกันออกไปตามแหล่งที่มาและการนำไปใช้   แต่กล่าวโดยทั่วๆไปแล้ว  E-Learning หมายถึง รูปแบบการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ ที่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสื่ออิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่ มีวัตถุประสงค์ที่เอื้ออำนวยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้องค์ความรู้ (Knowledge) ได้โดยไม่จำกัดเวลาและสถานที่ (Anywhere – Anytime Learning)   เพื่อให้ระบบการเรียนการสอนเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพื่อให้ผู้เรียนสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของกระบวนวิชาที่เรียนนั้น ๆ

การนำระบบ E-Learning มาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพในกระบวนการสอนสูงสุดนั้น ผู้สอนจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเข้าใจว่า รูปแบบการเรียนการสอน E-Learning นี้แตกต่างจากระบบการเรียนการสอนในรูปแบบปกติที่เรียกกันว่า face-to-face หรือ traditional classroom learning อย่างไร และจำเป็นที่ต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นด้านการปรับปรุงเรื่องเนื้อหา เทคโนโลยี เทคนิคการนำเสนอและการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพ การนำระบบ E-Learning เข้ามาใช้ และต้องระลึกไว้อยู่เสมอว่า คุณภาพการเรียนรู้ของระบบ E-Learning ต้องไม่ด้อยไปกว่าคุณภาพการเรียนรู้ในรูปแบบปกติ[10] 

ศักดา ไชยกิจภิญโญ ได้ให้ความหมายของ E-Learning ว่า  เป็นการเรียนรู้แบบใหม่ที่ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อระหว่างผู้เรียนและผู้สอน  ซึ่งสื่อการเรียนการสอนรูปแบบต่าง ๆ ที่ใช้ใน E-Learning ประกอบด้วย

           E-Book  เป็นสื่อสิ่งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบของเอกสารหรือหนังสือ

           Virtual Lab  เป็นสื่อที่สร้างคล้ายห้องปฏิบัติการที่ผู้เรียนสามารถเข้ามาทำการทดลอง (ในสถาน การณ์จำลอง) ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์

           Virtual Classroom  เป็นสื่อที่สร้างให้เป็นห้องเรียนเสมือน โดยใช้กระดานข่าว (web board) กระดานคุย (chat) หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) เพื่อติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

           Web Based Instruction  เป็นสื่อที่สร้างเหมือนโฮมเพจหรือเว็บเพจ แต่เนื้อหาเป็นบทเรียนที่ใช้ในการเรียน การสอน และมักมีการประเมินผลผู้เรียนด้วย

           E-library  เป็นห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ที่สร้างขึ้นเพื่อให้บริการผ่านทางระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต  เช่น  การสืบค้นผลงานวิจัยในรูปแบบบทคัดย่อหรือบางครั้งเป็นผลงานวิจัยฉบับสมบูรณ์พร้อมให้ดาวน์โหลดข้อมูลไปใช้ได้ด้วย  เป็นต้น[11] 

ความหมายของ E-Learning นั้น ถูกตีความไปอย่างกว้างขวาง ไม่ได้จำกัดถึงการเรียนผ่านดาวเทียมหรืออินเทอร์เน็ตเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่หมายถึงการเรียนการสอนที่ใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นซีดีรอม ฮาร์ดดิสก์  ฟลอปปี้ดิสก์  เน็ตเวิร์ก  อินทราเน็ต  อินเทอร์เน็ตหรือแม้แต่วิทยุโทรทัศน์ตามบ้านก็ตาม[12] ผู้เขียนเห็นว่า การแปลความหมายตามตัวอักษรทำให้ E-Learning มีขอบเขตที่กว้างขวางกว่า  แต่ในความหมายยอดนิยมนั้น เรามักเข้าใจกันว่า E-Learning เป็นกระบวนการการเรียนการสอนผ่านเครือข่ายหรืออินเทอร์เน็ต (Web-Based Learning) ดังนั้น จึงสมควรมีการกำหนดความหมายและขอบเขตของ E-Learning ให้ชัดเจน  ก่อนที่จะมีการกล่าวถึงรายละเอียดทุกครั้ง เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันทุกฝ่าย


1โครงการการเรียนรู้แบบออนไลน์แห่ง สวทช. ทำความรู้จักกับ e-Learning กันเถอะ. [On-line]. Accessed April 17, 2003. Available: http://www.thai2learn.com/elearning/index.php.

[2] ดร. ถนอมพร  เลาหจรัสแสง. .Designing E-leaning : หลักการออกแบบและการสร้างเว็บเพื่อการเรียนการสอน. เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2545. หน้า 4-5.

3 ดร. เกรียงศักดิ์  เจริญวงศักดิ์. "e-learning : ยุทธศาสตร์การเรียน."  Ecomomy.  ปีที่ 1 ฉบับที่ 26 (16-30 .. 2544) หน้า 43.

[4] บุปผชาติ ทัฬหิกรณ์. "e-learning : การเรียนรู้ในสังคมแห่งการเรียนรู้." วารสารศึกษาศาสตร์ปริทัศน์ ปีที่ 16 ฉบับที่ 1 หน้า 7-15.

[5] สยาม ลิขิตเลิศ. “E-learning พร้อมหรือยังกับการศึกษาไทย.” เทคโนฯ-ทับแก้ว ปีที่ 5 ฉบับที่ 7 (..-..45) หน้า 96-102.

[6] ยืน  ภู่วรวรรณ. การอภิปรายทางวิชาการ เรื่อง E-Learning มิติใหม่แห่งการเรียนรู้. ณ อาคารวิทยทัศน์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. 25 กรกฎาคม 2544.

[7] ดร. สฤษดิ์พงษ์  ลิมปิษเฐียร. การอภิปรายทางวิชาการ เรื่อง E-Learning มิติใหม่แห่งการเรียนรู้. ณ อาคารวิทยทัศน์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. 25 กรกฎาคม 2544.

[8] ปัทมาพร  เย็นบำรุง. การอภิปรายทางวิชาการ เรื่อง E-Learning มิติใหม่แห่งการเรียนรู้. ณ อาคารวิทยทัศน์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. 25 กรกฎาคม 2544.

[9] มนต์ชัย  สันติเวส. “E-Learning.” วารสารนักบริหาร. ปีที่ 22 ฉบับที่ 3 (..-..45) หน้า 61-65.

[10] ดร. ชุณหพงศ์  ไทยอุปถัมภ์. “e-learrning.” DMV. ปีที่ 3 ฉบับที่ 12 (..-..45) หน้า 26-28.

[11] ศักดา ไชยกิจภิญโญ. “การปฏิรูปการเรียนรู้สู่ E-Learning.” วารสารส่งเสริมประสิทธิภาพการเรียนการสอน . ปีที่ 11

[12] "eLearning เรียนอะไร เมื่อไหร่ จากที่ไหนดี." ข่าวสารสนเทศ . 61 (มิ..-.. 2544) หน้า 3-5.

.

 

  E-mail: telethailand@yahoo.com


© 2003 TeleThailand

Last revised: 27/11/2003

setstats 1